มาตรการนี้ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 โดยมุ่งเน้นการควบคุมแหล่งกำเนิดและกิจกรรมในแต่ละพื้นที่เพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 ภายใต้กรอบแนวคิดการจัดการตั้งแต่ ระยะเตรียมการ (ก่อนวิกฤต) และ ระยะปฏิบัติการ (ช่วงวิกฤต)

🚜 1. การควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตร

ก. ระยะเตรียมการ

  • การจัดการเศษวัสดุเหลือใช้:
    • จัดหาและจัดระบบเครื่องจักรกลทางการเกษตร (เครื่องไถกลบ, เครื่องอัดฟาง)
    • บังคับให้โรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงงานอุตสาหกรรมรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตรในช่วง ธ.ค. - เม.ย. ในสัดส่วน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของเชื้อเพลิงที่ใช้
    • ใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สนับสนุนเอกชนลงทุนเครื่องจักรกลและกิจการพลังงานชีวมวล
    • ปรับปรุงกฎระเบียบให้ อปท. ใช้งบประมาณสนับสนุนการไถกลบตอซังได้
  • การเตรียมการรองรับการบริหารการเผา:
    • ขึ้นทะเบียนเกษตรกรล่วงหน้า ที่จำเป็นต้องใช้ไฟ เพื่อใช้วางแผนบริหารจัดการ
    • กำหนดให้ใช้ระบบ Burn Check เป็นระบบเดียวกันทั่วประเทศในการขออนุญาตเผา
  • การควบคุมอ้อยไฟไหม้:
    • กำหนดเป้าหมายรับอ้อยไฟไหม้เข้าโรงงาน ไม่เกินร้อยละ 15
    • กำหนด เงินค่าปรับ จากโรงงานกรณีรับซื้ออ้อยไฟไหม้ (เช่น 100 บาท/ตัน) เพื่อสมทบให้เกษตรกรที่ตัดอ้อยสด
    • หากพบการเผา จะถูก ตัดสิทธิ์ การเข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐทุกโครงการในปี 2569 และปีถัดไป

ข. ระยะปฏิบัติการ

  • บริหารการเผาตามรายชื่อที่ขึ้นทะเบียนผ่านระบบ Burn Check อย่างเคร่งครัด
  • บังคับใช้กฎหมายกับเกษตรกรที่เผานอกระบบ โดยตัดสิทธิ์การช่วยเหลือจากภาครัฐ
  • จัดเตรียมเจ้าหน้าที่กำกับ ตรวจสอบพื้นที่ที่ขออนุญาต และรายงานผลต่อสาธารณะ

🌳 2. การจัดการไฟในพื้นที่ป่า

ก. ระยะเตรียมการ

  • อปท. จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่าในพื้นที่รับผิดชอบให้แล้วเสร็จ
  • บริหารจัดการไฟป่าโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น จัดทำแผนที่เสี่ยงไฟป่า และวางแผนตั้งจุดเฝ้าระวัง

ข. ระยะปฏิบัติการ

  • จัดชุดปฏิบัติการ ชุดลาดตระเวน และจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เป้าหมายหลัก
  • หากพบการเผาในที่ดินของรัฐ ให้ดำเนินการ เพิกถอนสิทธิ ในการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย
  • ประกาศ ปิดป่า ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

🏙️ 3. การควบคุมฝุ่นในเขตเมือง (ยานพาหนะและอุตสาหกรรม)

ก. ระยะเตรียมการ

  • ภาคยานพาหนะ:
    • ประกาศกำหนด เขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
    • ยกระดับมาตรฐานควันดำจากรถยนต์ดีเซลจาก 30% เป็น ไม่เกินร้อยละ 20
  • ภาคอุตสาหกรรม:
    • กำหนดให้โรงงานที่มีการระบายมลพิษสูงใน กทม. ต้องติดตั้งเครื่องมือพิเศษ (CEMS) เพื่อรายงานมลพิษจากปล่อง

ข. ระยะปฏิบัติการ

  • เข้มงวดตรวจสอบ/ตรวจจับยานพาหนะควันดำ หากพบเกินมาตรฐานให้ บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
  • ตรวจกำกับ บังคับใช้กฎหมายกับโรงงานอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเข้มงวด

🌐 4. การจัดการหมอกควันข้ามแดน

ก. ระยะเตรียมการ

  • จัดทำประกาศกระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการควบคุมการนำเข้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลอดการเผา ให้เริ่มบังคับใช้ภายในปี 2569

ข. ระยะปฏิบัติการ

  • ควบคุมการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เป็นไปตามประกาศอย่างเคร่งครัด และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบนำเข้า
  • ดำเนินการความร่วมมือตามกรอบอาเซียน โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส

⚙️ 5. การบริหารจัดการภาพรวม

  • การสนับสนุนงบประมาณ: เตรียมโครงการขอรับการสนับสนุน งบกลาง เพื่อใช้ในการควบคุมไฟป่า, สนับสนุนเกษตรกร, แผนดัดแปรสภาพอากาศ และระบบสาธารณสุข
  • การแจ้งเตือน: ทดสอบระบบการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านระบบ Cell Broadcast ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568
  • การดูแลสุขภาพ: ในระยะปฏิบัติการ ให้จัดเตรียม ห้องปลอดฝุ่น, จัดบริการทางการแพทย์ และเปิดคลินิกมลพิษ
  • การสื่อสาร: ยกระดับการสื่อสารและแจ้งเตือนสถานการณ์ โดย ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)

🎯 เป้าหมายที่กำหนดสำหรับปี ๒๕๖๙ (เทียบกับปี ๒๕๖๔)

พื้นที่เป้าหมาย เป้าหมายปี ๒๕๖๙ (ร้อยละที่ลดลง) การติดตามผลในช่วงปฏิบัติการ
พื้นที่ป่าทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 10% ควบคุมจำนวนจุดความร้อนจากการเผาไหม้
พื้นที่เกษตรภาพรวม ไม่น้อยกว่า 15% ควบคุมจำนวนจุดความร้อนจากการเผาไหม้
ผลลัพธ์คุณภาพอากาศ (17 จังหวัดภาคเหนือ) ลดค่าเฉลี่ย PM2.5 ลง 10% และลดจำนวนวันที่เกินมาตรฐานลง 5% N/A
การควบคุมฝุ่นในเขตเมือง ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ 100% N/A