สมมติฐาน (Input Parameters)
- โรงงานน้ำตาล A รับอ้อยเข้าหีบทั้งหมด: 1,000,000 ตัน
- ราคารับซื้อพื้นฐาน (ก่อนหัก/เพิ่ม): 1,000 บาท/ตัน
- ข้อตกลงใหม่: อัตราหักเงินอ้อยไฟไหม้ (ค่าปรับ): 200 บาท/ตัน
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง:
- อ้อยสด: 80% (800,000 ตัน)
- อ้อยเผา: 20% (200,000 ตัน)
ขั้นตอนการคำนวณและผลลัพธ์
-
การรวบรวมเงินค่าปรับจากอ้อยเผา
โรงงานหักเงินจากเกษตรกรที่ส่งอ้อยเผาทั้งหมดเพื่อนำเข้ากองกลาง
200,000 ตัน (อ้อยเผา) × 200 บาท/ตัน = 40,000,000 บาท (เงินในกองทุนค่าปรับ) -
การกระจายเงินเพิ่มพิเศษ (Premium) ให้เกษตรกรอ้อยสด
นำเงินจากกองทุนค่าปรับทั้งหมด มาเฉลี่ยจ่ายคืนให้เฉพาะเกษตรกรที่ส่งอ้อยสด
40,000,000 บาท ÷ 800,000 ตัน (อ้อยสด) = 50 บาท/ตัน (เงินเพิ่มพิเศษ)
สรุปราคาที่เกษตรกรแต่ละกลุ่มจะได้รับ (ราคาสุทธิ)
เกษตรกรอ้อยเผา
1,000 บาท - 200 บาท
ได้รับสุทธิ 800 บาท/ตัน
เกษตรกรอ้อยสด
1,000 บาท + 50 บาท
ได้รับสุทธิ 1,050 บาท/ตัน
ผลลัพธ์สุดท้ายที่เกิดขึ้นจริง
ส่วนต่างราคาระหว่างอ้อยสดและอ้อยเผา
250 บาท/ตัน
กลไกนี้สามารถสร้างส่วนต่างของราคาได้สูงกว่าเป้าหมาย (200 บาท/ตัน) และกลายเป็นแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่ทรงพลังมากพอที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรได้
ข้อดีของกลไกนี้
- สร้างแรงจูงใจชัดเจน: เกษตรกรเห็นตัวเลขส่วนต่างที่คุ้มค่ากับการลงทุนลงแรงตัดอ้อยสด
- เป็นกลไกที่ยั่งยืน: ระบบสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐมาอุดหนุน
- เกิดแรงกดดันทางสังคม: เกษตรกรที่เผาอ้อยทราบว่าเงินค่าปรับของตนเองถูกนำไปจ่ายให้เพื่อนเกษตรกรที่ตัดอ้อยสด