แนวทางการประยุกต์ใช้ "Smart AI"

"Smart AI" คือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของ สคพ.10 ไม่ใช่การนำเทคโนโลยีมาแทนที่คน แต่คือการเพิ่มศักยภาพให้บุคลากรสามารถทำงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์ได้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นที่การสร้างกรอบคิดที่พร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการใช้ AI ในฐานะผู้ช่วยอัจฉริยะ


๑. การสร้าง "AI Mindset" (กรอบคิดที่พร้อมรับปัญญาประดิษฐ์)

การปรับเปลี่ยนมุมมองและวัฒนธรรมองค์กรให้เปิดกว้าง พร้อมที่จะเรียนรู้ ทดลอง และนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ในการทำงาน เพื่อมองหาโอกาสในการพัฒนากระบวนการทำงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

ขั้นตอน วิธีการและเครื่องมือ เทคนิค
๑. สร้างความตระหนักรู้ (Awareness) AI Literacy Workshop: จัดอบรมให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI ว่าคืออะไร ทำงานอย่างไร และมีประโยชน์ต่องานของ สคพ.10 อย่างไรบ้าง เพื่อลดความกลัวและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง Show, Don't Just Tell: นำเสนอตัวอย่างกรณีศึกษา (Use Case) ที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ AI ในหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่มีบริบทใกล้เคียงกัน เพื่อให้เห็นภาพประโยชน์ที่จับต้องได้
๒. ส่งเสริมการทดลอง (Experimentation) AI Sandbox: จัดเตรียมพื้นที่หรือเครื่องมือ AI ที่ปลอดภัยให้บุคลากรได้ทดลองใช้งานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผิดพลาด เช่น การใช้ ChatGPT, Gemini, หรือ Microsoft Copilot ในงานที่ไม่เป็นความลับ "AI for Good" Hackathon: จัดกิจกรรมระดมสมองภายในองค์กร เพื่อค้นหาไอเดียการนำ AI มาใช้แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รับผิดชอบ และให้รางวัลกับไอเดียที่ดีที่สุด
๓. ปลูกฝังวัฒนธรรม (Cultivation) AI Champions: แต่งตั้ง "แกนนำด้าน AI" ในแต่ละส่วนงาน ทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาและสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมในการนำ AI ไปปรับใช้ Celebrate Early Adopters: ยกย่องและให้รางวัลแก่บุคลากรหรือทีมงานที่ริเริ่มนำ AI มาใช้พัฒนางานของตนเองได้สำเร็จ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น

๒. การใช้งาน "Agentic AI" (ปัญญาประดิษฐ์ในฐานะผู้ช่วยอัจฉริยะ)

การนำเครื่องมือ AI ที่มีความสามารถในการดำเนินการตามคำสั่งหรือทำงานแทนมนุษย์ในบางขั้นตอน (Agent) มาใช้เป็นผู้ช่วยในการทำงานประจำวัน เพื่อลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความรวดเร็ว และเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล

ขั้นตอน วิธีการและเครื่องมือ เทคนิค
๑. งานจัดการข้อมูลและเอกสาร (Data & Document) Generative AI (เช่น Gemini, ChatGPT): ใช้ในการสรุปรายงานการประชุม, ยกร่างหนังสือราชการ, แปลเอกสารทางวิชาการ, หรือสรุปข้อมูลจากงานวิจัยจำนวนมาก Prompt Engineering: ฝึกฝนทักษะการตั้งคำสั่ง (Prompt) ให้กับ AI อย่างละเอียดและชัดเจน โดยระบุบทบาท (Role), รูปแบบ (Format), และเป้าหมาย (Goal) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด
๒. งานวิเคราะห์และเฝ้าระวัง (Analysis & Monitoring) Data Visualization Tools (เช่น Power BI, Tableau): ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อม (น้ำ, อากาศ) และสร้างเป็น Dashboard ที่เข้าใจง่าย เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้บริหาร Pattern Recognition: อาจพัฒนาระบบ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์แนวโน้มหรือรูปแบบที่ผิดปกติจากข้อมูลการตรวจวัด เช่น การตรวจจับค่ามลพิษที่สูงเกินเกณฑ์อย่างรวดเร็วจากข้อมูล Real-time
๓. งานสื่อสารและบริการประชาชน (Communication & Service) AI Chatbot: พัฒนา Chatbot บนเว็บไซต์หรือ Line Official เพื่อตอบคำถามที่พบบ่อย (FAQ) จากประชาชน เช่น ขั้นตอนการร้องเรียน, ข้อมูลคุณภาพอากาศในพื้นที่, หรือข้อมูลกฎหมายสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น Content Creation: ใช้ AI ช่วยร่างเนื้อหาสำหรับโพสต์บนโซเชียลมีเดีย, เขียนบทความให้ความรู้, หรือคิดคำขวัญรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การสื่อสารมีความน่าสนใจและรวดเร็วยิ่งขึ้น