แนวทางการสื่อสารแบบ "Smart Communication"

"Smart Communication" เป็นเสาหลักสำคัญที่จะทำให้การทำงานของ สคพ.10 เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งภายในและภายนอกองค์กร คือการสื่อสารอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้ง และสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย ๓ องค์ประกอบหลัก ดังนี้


๑. Right Audience, Right Message (สื่อสารตรงกลุ่ม ตรงประเด็น)

การออกแบบเนื้อหาและเลือกช่องทางการสื่อสารให้เหมาะสมกับ "ผู้รับสาร" แต่ละกลุ่ม เพื่อให้สารที่ต้องการสื่อออกไปนั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สร้างความเข้าใจได้ถูกต้อง และนำไปสู่การปฏิบัติที่ต้องการ

ขั้นตอน วิธีการและเครื่องมือ เทคนิค
๑. วิเคราะห์ผู้รับสาร (Audience Analysis) Stakeholder Mapping: จัดทำแผนที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยจำแนกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ประชาชนทั่วไป, อปท., ผู้ประกอบการ, สื่อมวลชน, เครือข่ายภาคประชาชน Persona Creation: สร้างตัวตนสมมติของผู้รับสารแต่ละกลุ่ม เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการ ความสนใจ และพฤติกรรมการรับสื่อของพวกเขาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
๒. ออกแบบสาร (Message Crafting) Key Message Box: กำหนดประเด็นหลักที่ต้องการสื่อสาร (Key Message) ให้กระชับ ชัดเจน และสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้รับสารแต่ละกลุ่มให้ความสำคัญ ปรับภาษาให้เหมาะสม: ใช้ภาษาราชการกับหน่วยงานภาครัฐ, ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มี Infographic ประกอบสำหรับประชาชนทั่วไป, ใช้ข้อมูลเชิงเทคนิคและกฎหมายสำหรับผู้ประกอบการ
๓. เลือกช่องทาง (Channel Selection) Multi-Channel Strategy: เลือกใช้ช่องทางที่หลากหลายผสมผสานกัน เช่น เว็บไซต์ทางการ, Facebook Page, Line Official, การจัดประชุมชี้แจง, การลงพื้นที่พบปะ, การแถลงข่าว เลือกช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายใช้: สื่อสารเรื่องคุณภาพอากาศผ่านแอปพลิเคชันหรือ Line Alert, สื่อสารกับ อปท. ผ่านหนังสือราชการและการประชุม, สื่อสารกับคนรุ่นใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย

๒. One team, One voice, Proactive action (ทีมเดียว เสียงเดียว ทำงานเชิงรุก)

การสร้างความเป็นเอกภาพในการสื่อสารขององค์กร ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต ทุกคนใน สคพ.10 ต้องสื่อสารไปในทิศทางเดียวกันและทำงานในเชิงรุก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและจัดการสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ขั้นตอน วิธีการและเครื่องมือ เทคนิค
๑. สร้างความเป็นหนึ่งเดียว (Alignment) Internal Briefing: จัดประชุมภายในทีมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทุกคนรับทราบข้อมูล สถานการณ์ และจุดยืนขององค์กรที่ตรงกันก่อนสื่อสารสู่ภายนอก Talking Points: จัดทำเอกสารสรุปประเด็นสำคัญและแนวทางการตอบคำถามในเรื่องต่างๆ (Q&A) เพื่อให้บุคลากรทุกคนใช้เป็นแนวทางในการสื่อสารที่สอดคล้องกัน
๒. กำหนดผู้รับผิดชอบ (Spokesperson) Communication Protocol: กำหนดบทบาทและผู้มีอำนาจในการให้ข่าวหรือให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในแต่ละประเด็นให้ชัดเจน เช่น ผอ.สคพ.10 หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย "One Voice" Policy: แม้จะมีผู้ให้ข้อมูลหลายคน แต่ข้อมูลหลักและจุดยืนต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เพื่อป้องกันความสับสน
๓. ปฏิบัติการเชิงรุก (Proactive Action) Early Warning System: ใช้ข้อมูลเฝ้าระวังในการแจ้งเตือนสถานการณ์มลพิษล่วงหน้า (เช่น $PM_{2.5}$) แทนที่จะรอให้เกิดปัญหาแล้วจึงค่อยชี้แจง Press Release & Media Relations: ส่งข่าวประชาสัมพันธ์เชิงรุกเมื่อมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ หรือจัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

๓. เดินให้เยอะ คุยให้มาก (Walk More, Talk More)

การให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านการลงพื้นที่จริง การพบปะพูดคุย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ สร้างความไว้วางใจ และรับฟังปัญหาหรือความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถหาได้จากเอกสาร

ขั้นตอน วิธีการและเครื่องมือ เทคนิค
๑. วางแผนการลงพื้นที่ (Field Visit Planning) Targeted Outreach: กำหนดเป้าหมายการลงพื้นที่ให้ชัดเจน เช่น พื้นที่ที่มีเรื่องร้องเรียนบ่อย, พื้นที่เสี่ยง, หรือพื้นที่ที่เป็นต้นแบบความสำเร็จ เพื่อให้การลงพื้นที่มีวัตถุประสงค์ เตรียมข้อมูลและประเด็น: ก่อนลงพื้นที่ต้องศึกษาข้อมูลของพื้นที่และกลุ่มเป้าหมายที่จะไปพบปะ พร้อมเตรียมประเด็นที่ต้องการจะสื่อสารและคำถามที่ต้องการจะสอบถาม
๒. ดำเนินการสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) Focus Group/Community Dialogue: จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อย หรือเวทีประชาคม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้แสดงความคิดเห็นและข้อกังวลอย่างเต็มที่ Active Listening & Empathy: ใช้ทักษะการฟังอย่างตั้งใจและแสดงความเข้าอกเข้าใจ เพื่อให้คู่สนทนารู้สึกว่าเราให้ความสำคัญและต้องการช่วยเหลืออย่างแท้จริง
๓. ติดตามและนำไปใช้ประโยชน์ (Follow-up & Utilization) Trip Report & Knowledge Sharing: จัดทำสรุปผลการลงพื้นที่ และนำข้อมูลหรือปัญหาที่ได้รับมาแบ่งปันให้ทีมงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข Feedback Loop: แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะหรือปัญหาที่ได้รับฟังมา กลับไปยังชุมชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเสียงของพวกเขามีความหมาย