สถานการณ์สิ่งแวดล้อมและมลพิษ: จังหวัดบุรีรัมย์

นโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11

สถานการณ์และความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม จังหวัดบุรีรัมย์

🌬️1. ปัญหามลพิษทางอากาศ (PM2.5) จากการเผาในที่โล่ง

สถานการณ์: ปัญหาฝุ่น PM2.5 ถือเป็น วาระเร่งด่วนและสำคัญที่สุด ของจังหวัด โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง (ม.ค. - พ.ค.) ที่ค่าฝุ่นมักสูงเกินค่ามาตรฐานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพเป็นวงกว้าง

  • สาเหตุหลัก: การเผาในพื้นที่เกษตรกรรม (อ้อย, ตอซังข้าว), ไฟป่า, และการเผาขยะในชุมชน
  • ความท้าทาย: แม้จะมีการประกาศ "ห้ามเผาโดยเด็ดขาด" แต่การกระทำผิดยังคงเกิดขึ้น สะท้อนถึงความจำเป็นในการบูรณาการมาตรการทางกฎหมายเข้ากับมาตรการส่งเสริมและสร้างทางเลือกให้แก่เกษตรกร

🗑️2. การจัดการขยะมูลฝอยที่กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต

  • สถานการณ์: เผชิญกับปัญหา "ขยะตกค้างสะสม" และ "ขีดความสามารถของสถานที่กำจัดขยะ" ที่กำลังจะเต็มในอนาคตอันใกล้
  • ประเด็นสำคัญ: ปริมาณขยะล้นเมือง (เคยมีข้อมูลขยะตกค้างสะสมหลายแสนตัน), การจัดการที่ไม่ถูกหลักวิชาการ, และการคัดแยกขยะต้นทางที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
  • ความท้าทาย: การผลักดันให้เกิดระบบกำจัดขยะที่ยั่งยืน (เช่น โรงไฟฟ้าขยะ) ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยและการมีส่วนร่วมของประชาชน

💧3. คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำหลักและปัญหาภัยแล้ง

  • สถานการณ์: คุณภาพน้ำใน "แม่น้ำมูล" มีแนวโน้มเสื่อมโทรมลง (เคยตกอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก) โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้งที่ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง
  • ประเด็นสำคัญ: ปัญหาภัยแล้งกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง, ความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค, และปัญหาน้ำเน่าเสียในแหล่งน้ำชุมชน (เช่น คลองละลมโบราณ)
  • ความท้าทาย: การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ทั้งการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ และการแก้ไขปัญหาภัยแล้งโดยการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ

🌪️4. ภัยธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม

  • สถานการณ์: เผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติซ้ำซาก โดยเฉพาะ "ภัยแล้ง" ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และ "อุทกภัย" ในบางพื้นที่ลุ่มต่ำ
  • ความท้าทาย: การวางแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเชิงรุก โดยวิเคราะห์ความเสี่ยงและเตรียมความพร้อมของชุมชน

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับ ผอ.สคพ.11

🚨1. ยกระดับการแก้ไขปัญหา PM2.5 แบบบูรณาการ

  • บังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด: ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อบังคับใช้ประกาศห้ามเผาอย่างจริงจัง และดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนให้เป็นกรณีตัวอย่าง
  • สร้างทางเลือกแทนการเผา: ผลักดันโมเดลการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรครบวงจร โดยร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ เพื่อเปลี่ยนซากอ้อยและตอซังข้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า
  • เสริมศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวัง: ใช้เทคโนโลยี (เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม) และสนับสนุนเครือข่ายภาคประชาชนในการชี้เป้าและแจ้งเหตุ

♻️2. ขับเคลื่อนแผนแม่บทการจัดการขยะจังหวัด

  • กำกับดูแลและให้คำปรึกษาทางวิชาการ: ทำงานร่วมกับ อปท. ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของสถานที่กำจัดขยะให้ถูกหลักวิชาการ
  • ผลักดันโครงการจัดการขยะปลายทาง: สนับสนุนและให้ความเห็นทางวิชาการต่อโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ
  • รณรงค์สร้างจิตสำนึก: จัดทำแคมเปญส่งเสริมการคัดแยกขยะที่ต้นทางอย่างต่อเนื่อง

🌊3. ฟื้นฟูและเฝ้าระวังคุณภาพแหล่งน้ำ

  • เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำ: กำหนดจุดเฝ้าระวังในแม่น้ำมูลและลำน้ำสาขาที่มีความเสี่ยง และรายงานสถานการณ์ให้สาธารณชนทราบ
  • บังคับใช้กฎหมายควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ: ตรวจสอบและควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากชุมชนและสถานประกอบการอย่างเข้มงวด