สถานการณ์สิ่งแวดล้อมและมลพิษ: จังหวัดสุรินทร์

นโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11

สถานการณ์และความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม จังหวัดสุรินทร์

🌬️1. ปัญหามลพิษทางอากาศ (PM2.5) จากการเผาในที่โล่ง

  • สถานการณ์: ประสบปัญหาฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเป็นประจำในช่วงฤดูแล้ง (ม.ค. - เม.ย.) จนคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ สีส้ม ถึง สีแดง
  • สาเหตุหลัก:
    • การเผาในพื้นที่เกษตรกรรม: โดยเฉพาะการเผาตอซังข้าว เป็นแหล่งกำเนิดหลักที่สำคัญที่สุด
    • ไฟป่า: การลักลอบจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่ายังคงเป็นสาเหตุสำคัญ
    • มลพิษข้ามแดน: ได้รับผลกระทบจากหมอกควันและจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้าน
  • ความท้าทาย: การบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่ยั่งยืน จำเป็นต้องมีมาตรการเชิงรุกส่งเสริมทางเลือกให้เกษตรกรควบคู่กับการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังที่เข้มแข็ง

🗑️2. การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียชุมชน

  • สถานการณ์: ปริมาณขยะและน้ำเสียเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของชุมชน กลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ
  • ประเด็นสำคัญ:
    • ขยะมูลฝอย: มีความพยายามแก้ไขผ่านโครงการ "สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองสะอาด" แต่การจัดการขยะปลายทางยังคงเป็นโจทย์ท้าทาย
    • น้ำเสียชุมชน: ระบบบำบัดน้ำเสียรวมในเขตเมืองยังไม่ครอบคลุมและมีสภาพเสื่อมโทรม ทำให้ประสิทธิภาพการบำบัดไม่เต็มที่
  • ความท้าทาย: การผลักดันให้ อปท. มีศักยภาพในการบริหารจัดการขยะและน้ำเสียอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง

💧3. คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำสายหลักและภัยธรรมชาติ

  • สถานการณ์: แม่น้ำมูล และลำน้ำสาขากำลังเผชิญความเสี่ยงด้านคุณภาพและความผันผวนของปริมาณน้ำ
  • ประเด็นสำคัญ:
    • คุณภาพน้ำ: โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ "พอใช้" แต่ยังพบการปนเปื้อนของแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม ซึ่งบ่งชี้ถึงมลพิษจากชุมชน
    • ภัยแล้งและอุทกภัย: เผชิญปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนและเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง โดยเฉพาะในอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งสถานการณ์อาจรุนแรงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ
  • ความท้าทาย: การบริหารจัดการน้ำเชิงบูรณาการ ทั้งการควบคุมมลพิษและการทำงานร่วมกับหน่วยงานชลประทานเพื่อรับมือน้ำท่วม-น้ำแล้ง

นโยบายของ ผอ.สคพ.11

🚨1. ยกระดับการแก้ไขปัญหา PM2.5 อย่างเข้มข้น

  • บังคับใช้กฎหมายควบคู่มาตรการส่งเสริม: ประสานกับจังหวัดเพื่อบังคับใช้กฎหมายห้ามเผาอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการผลักดันนโยบายเกษตรปลอดการเผาและสนับสนุนการนำเศษวัสดุไปสร้างมูลค่าเพิ่ม
  • เสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค: ทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการในระดับเขตเพื่อติดตามสถานการณ์หมอกควันข้ามแดนและแจ้งเตือนประชาชน

♻️2. ขับเคลื่อนการจัดการของเสียและน้ำเสียให้เป็นรูปธรรม

  • ให้คำปรึกษาทางวิชาการแก่ อปท.: ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการ ให้คำแนะนำในการปรับปรุงแผนจัดการขยะและน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ
  • กำกับดูแลแหล่งกำเนิดมลพิษ: เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่สำคัญ ทั้งจากชุมชนและสถานประกอบการ

📈3. เสริมสร้างระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยด้านสิ่งแวดล้อม

  • เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม: เพิ่มความถี่และจุดตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำมูลและลำน้ำสาขาที่มีความเสี่ยง เพื่อประเมินสถานการณ์และแจ้งเตือนได้รวดเร็ว
  • บูรณาการข้อมูลเพื่อการจัดการภัยธรรมชาติ: ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านทรัพยากรน้ำและ ปภ. เพื่อใช้ข้อมูลสิ่งแวดล้อมประกอบการวางแผนรับมือน้ำท่วมและภัยแล้ง